top of page

สุดยอดวิธีใช้การตลาดแบบ “ปากต่อปาก” ที่ได้ผลมากที่สุด


ถ้าไม่รู้จะเริ่มต้นขยายกิจการธุรกิจแบบไหนให้ได้ผลดี มีคนจดจำแบรนด์มากขึ้นล่ะก็ ขอแนะนำการตลาดแบบ “ปากต่อปาก” สุดยอดกลยุทธ์ที่ถึงแม้จะเก่าแค่ไหน แต่มันก็ได้ผลชนิดที่ใครหลายๆ คนคาดไม่ถึง เพราะคำพูดมีพลังมหาศาลที่จะโน้มน้าวจิตใจคนได้ โดยเฉพาะถ้ามันหลุดมาจากปากของคนใกล้ตัว ความน่าเชื่อถือยิ่งเพิ่มขึ้น นี่แหละคือหัวใจสำคัญของการตลาดแบบ “ปากต่อปาก”

วันนี้เราเลยมาพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับการตลาดรูปแบบนี้ให้ดีขึ้นและใช้งานได้จริง รับรองว่าลูกค้าต้องติดใจและกลับไปบอกต่อชัวร์ 1. ปราการด่านแรก ต้องบริการให้เนี้ยบที่สุดการจะให้ลูกค้าบอกปากต่อปากได้นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับ แต่ถ้าทำได้ล่ะก็มันจะมีประสิทธิภาพมากเลยล่ะ และปัจจัยแรกที่ใช้ในการตัดสินว่าลูกค้าจะบอกต่อสินค้าหรือแบรนด์เรารึเปล่าก็คือ การบริการนั่นเอง ทุกบริษัทก็อยากจะให้ลูกค้าคิดว่าตัวเองมีใจรักในการบริการ แต่ถ้ายังแสดงหน้าตาบูดบึ้ง ถามคำตอบคำ ไม่มองหน้าเวลาพูด แบบนี้เป็นใครก็ไม่ชอบหรอกครับ เพราะฉะนั้นแก้ที่เรื่องนี้ก่อนเลย ลูกค้าเข้ามาเรายิ้มให้ก่อนอันดับแรก และเข้าประชิดถามว่าอยากให้ช่วยอะไรมั้ย ทุกคำพูดต้องแฝงด้วยรอยยิ้มและการมองตา สุภาพและรับฟังอย่างตั้งใจ ถ้าให้บริการแบบนี้ได้ ลูกค้าก็พร้อมจะบอกต่อเราแล้วล่ะ

2. ติดต่อกันตลอด ทำยังไงก็ได้ไม่ให้เค้าลืมเรา

ถ้าเราขายสินค้าชิ้นหนึ่งแล้วเราอยากให้คนบอกต่อสินค้าเราเยอะๆ เราต้องทำยังไงก็ได้ให้เค้านึกถึงเราให้ได้ เวลาที่เค้าพูดถึงสินค้าประเภทนี้ เช่น เราขายผ้าอ้อม เวลาลูกค้าเราไปคุยกับคุณแม่มือใหม่สักคน แล้วพูดถึงเรื่องผ้าอ้อม เราก็ต้องทำให้เค้านึกถึงผ้าอ้อมของเรา ซึ่งกลยุทธ์ตรงนี้จะทำให้เค้าจำเราได้ก็คือ ต้องคอยขยันส่งอีเมล ส่งข้อความ อัปเดตข่าวสารตามโซเชียลมีเดียอยู่ตลอด เวลา มีโปรโมชันใหม่ๆ ก็อย่าให้ลูกค้าพลาด อะไรที่ดีกับเค้าก็เสิร์ฟให้เค้าไปเลยถึงที่ พอเค้าได้เห็นเราทุกวัน เค้าก็จะจำเราได้เอง แล้วบทสนทนาครั้งต่อไปต้องมีชื่อแบรนด์เราแน่นอน

3. ชื่อและข้อมูลทุกอย่างต้องหาง่าย จะได้รู้ว่าเราเป็นใคร

ในมุมของลูกค้ายุคนี้ถ้าเค้าอยากบอกต่อเรากับใคร แต่เค้าต้องมาหาชื่อเราเป็นชั่วโมง แบบนี้เป็นใครคงไม่อยากบอก อะไรที่มันลำบากนิดลำบากหน่อยเค้าก็ไม่สนใจแล้ว เพราะมีคู่แข่งอีกตั้งเยอะแยะที่พร้อมจะทำตัวเข้าถึงง่ายให้เค้าไปใช้บริการ เราเลยต้องสนใจที่จุดนี้ด้วย ดังนั้นต้องทำให้ชื่อและข้อมูลเราหาง่ายที่สุด บอกรายละเอียดทุกอย่างให้ชัดเจนบนเว็บไซต์ นามบัตร หรือโฆษณาตามที่ต่างๆ แบบนี้เวลาเค้าอยากจะบอกต่อเรากับใคร แค่ส่งลิงก์เราให้หรือแท็กเพื่อนๆ มาในเฟซบุ๊ก เราก็ได้แต้มแล้ว

4. เป็นพันธมิตรกับบริษัทอื่น ช่วยกันบอกต่อ

มาถึงวิธีสุดท้ายในการบอกต่อ ให้ลองมองหาใครสักคนที่เปิดธุรกิจมีสินค้าใกล้เคียงกับเรา หรือไปในทิศทางเดียวกัน แล้วเข้าไปทำพาร์ทเนอร์ร่วมกัน เจรจาต่อรองกันดูให้เค้าช่วยบอกต่อสินค้าเราเวลามีคนมาซื้อ แนะนำกับลูกค้าไปว่าสินค้าเราดียังไง แล้วเราก็ทำแบบนั้นกับเค้าเหมือนกัน ก็จะช่วยเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจได้มากโดยไม่ต้องเสียเงินซักบาท แถมได้ลูกค้าที่ตรงกลุ่มเป้าหมายอีกต่างหาก สุดยอดไปเลยนะวิธีนี้

ที่มา http://www.bangkokbanksme.com/article/12559

สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษา Bangkok Bank SME เราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ สายด่วน 1333

สนใจข้อมูลธุรกิจ

http://makkasan.com


Recent Posts
bottom of page