top of page

การศึกษาไทยกับ ไอ ซี ที

มีหลายคนถาม "เด็กไทยเก่ง ไอ ซี ที " จริงหรือ

เพราะเห็นผู้ปกครองบางท่านยังเข้าใจ เอาเองว่า เห็นลูกเล่นเกมส์ หรือ ใช้เพื่อทำอะไรบางอย่างได้ ก็คิดไปว่า "เด็กเราเก่ง"

ความจริงในการศึกษาน่าจะแบ่งออกเป็น 2 กรณ๊คือ

1.การเรียนรู้

2.การใช้งาน

1.การเรียนรู้

ผู้เรียนจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาทางเทคโนโลยีเท่าที่จำเป็น แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะเทคโนโลยี มันพัฒนาไปเร็วมาก องค์ความรู้ต่างๆต้องก้าวไปให้ทัน ทั้งผู้สอนและผู้เรียน

2.การใช้งาน

เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก การใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อการเรียนรู้ เป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุด หรือ การเรียนรู้ในการใช้ซอฟแวร์ เท่าที่จำเป็นต้องใช้เฉพาะสาขา ถือว่าเป็นเรื่องจำเป็น จะต้องจัดการเรียนรู้ให้ถูกต้องเหมาะสมเพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ทั้งสองเรื่องนี้เป็นการนำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการเรียนการสอนเท่านั้น และเราเรียกกระบวนการนี้กับระบบว่า ผู้ใช้งาน หรือ User

คำว่า USER หรือผู้ใช้งานก็คือ ผู้ บริโภคนั่นเอง เพราะไม่ใช่ผู้ผลิต ทุกวันนี้แทบทุกระบบของเรา ก็คือ ผู้ใช้งาน หรือ ผู้ บริโภค จะมีบางส่วนเท่านั้น ที่พอจะจัดอยู่ในกลุ่มผู้ผลิตได้

เมื่อสินค้าที่เป็นเทคโนโลยี พัฒนาไปเร็ว ประชากรมีความต้องการใช้งานมาก เราก็จะเป็นผู้จ่ายเงินมากและที่สำคัญ สินค้าเทคโนโลยี มันราคาสูงกว่า ผลิตภัณฑ์ ชนิดอื่นมาก ใครมีเทคโนโลยีมากผู้นั้นก็จะเป็นผู้ทำกำไร

หันมาดูประเทศเราบ้าง จะเห็นว่า เราไม่ใช่ผู้สร้างเทคโนโลยี แต่กลับกลายเป็นผู้ใช้ หรือ บริโภค รายใหญ่เลยทีเดียว ภายในไม่กี่ปีข้างหน้า ค่าใช้จ่ายด้านนี้จะมากมายมหาศาล ถ้าเป็นอยู่อย่างทุกวันนี้ประเทศของเราจะเป็นไปทิศทางไหน

วันนี้มีความจำเป็นแล้วครับ "เราต้องใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม"

เราต้องนำเทคโนโลยีที่จำเป็นในการใช้งาน มาใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ใช่แข่งการซื้อเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว

ทุกวันนี้มีเทคโนโลยีสื่อสาร เช่น โทรศัพท์มือถือ มีความต้องการสูงมาก ถามว่ามีกี่ยี่ห้อที่เราผลิตได้เอง และเรานำเข้ามามากน้อยขนาดไหน ระบบเครือข่ายที่ใช้ก็เป็นอุปกรณ์นำเข้าเกือบทั้งหมด และที่สำคัญที่สุดคือผู้ใช้

เราใช้เทคโนโลยีสื่อสารคุ้มค่า หรือ ยัง อย่าลืมนะครับว่า เราทำงานมีรายได้ รายวัน รายเดือน แต่ผู้ทำธุรกิจด้านการสื่อสาร คิดค่าใช้จ่ายเป็น วินาที และเราใช้ระบบคุ้มค่าไหม

Recent Posts
bottom of page