ข่าวร้ายจากจีน

อย่างที่รู้ๆ กันว่าในช่วง 2-3 ปีมานี้เป็นช่วงโหดร้ายที่สุดของชาวนา ชาวไร่ เป็นปีที่สินค้าเกษตรต้องเผชิญกับวิกฤตแล้งหนักทำให้ผลผลิตตกต่ำ ค่อนข้างแน่ว่าปีหน้าจะหนักกว่านี้หลายเท่า

ที่ต้องบอกว่าโหดร้ายสุดๆ ก็เพราะปกติหากเจอภัยแล้งผลผลิตออกมาน้อยราคาก็น่าจะดี กลับไม่เป็นอย่างนั้น กลายเป็นว่าต้องเจอ "วิกฤตซ้อนวิกฤต" ทั้งผลผลิตน้อย และซ้ำร้าย "ราคาตกต่ำ" อันเนื่องมาจากวิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลก แถมราคาน้ำมันดิ่งเหวส่งผลให้สินค้าโภคภัณฑ์รวมถึงสินค้าเกษตรโดนหางเลขไปด้วย

อย่างไรก็ตาม แม้ที่ผ่านมาเราจะเสียตลาดส่งออกสินค้าเกษตรชั้นดีอย่างสหรัฐและอียูไป แต่เรายังมีตลาดใหญ่อย่างจีนให้พึ่งเนื้อนาบุญ จึงไม่กระทบเท่าไหร่ แต่ในระยะหลังๆ เศรษฐกิจจีนเริ่มชะลอตัว ประกอบกับพืชเกษตรหลายๆ ชนิดจีนหันมาปลูกเอง จึงนำเข้าน้อยลง

"ยางพารา" เป็นตัวแรกๆ ที่จีนเลิกนำเข้าหันมาใช้ยางที่ปลูกเองในประเทศ ส่งผลให้ราคายางของไทยตกต่ำต่อเนื่อง จนป่านนี้ยังโงหัวไม่ขึ้น เฉลี่ย 3 โล 100 มานานสองสามปีมาแล้ว

แต่ข่าวร้ายล่าสุดกำลังแพร่สะพัดไปทั่ววงการมันสำปะหลัง ว่าจีนที่เป็นลูกค้าซื้อมันเส้นและแป้งมันรายใหญ่ที่สุดได้ ชะลอซื้อมันเส้นจากไทย โดยอ้างว่ารัฐบาลจีนอนุญาตให้ใช้ข้าวโพดที่ปลูกได้ในประเทศไปผลิตเป็นแอลกอฮอล์ได้ เพราะในปีนี้จีนผลิตข้าวโพดได้มาก

ที่ผ่านมารัฐบาลจีนห้ามใช้ข้าวโพดผลิตแอลกอฮอล์ เนื่องจากนโยบายความมั่นคงด้านอาหาร ไม่ให้ใช้พืชอาหารไปผลิตแอลกอฮอล์กลัวจะเกิดการแย่งชิงกันระหว่าง "พลังงาน" กับ "อุตสาหกรรมอาหาร"

ก่อนหน้านี้แป้งมันสำปะหลังก็เจอปัญหาราคากำลังลดลงเพราะแป้งข้าวโพดในประเทศราคาต่ำ แถมส่งออกไปจีน ไม่ได้ ซึ่งจะมีผลตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป

ปีที่ผ่านมาเราปลูกประมาณ 8 ล้านไร่ส่งออกมูลค่ากว่าแสนล้านบาท มันสำปะหลังจึงเป็นอีกตัวหนึ่งที่ส่งสัญญาณไม่ค่อยดีมายังเศรษฐกิจไทย ต่อจากข้าว ยาง ปาล์ม ที่เจอฝนแล้ง และอ้อย โดนบราซิลทุ่มตลาด

ปีหน้าจะเป็นปีที่วิกฤตสุดๆ เพราะไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อนที่สินค้าเกษตรของไทยวิกฤตพร้อมๆ กัน ถือว่ารุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2539 และปี 2540 เป็นต้นมา

ที่มา

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1447779218

ข่าวสด วันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 00:47 น.